ด้วยรุ่นไฮเอนด์นี้ Jabra ต้องการแข่งขันกับผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงอย่าง Sony และ Bose ปัญญาประดิษฐ์ของ Jabra Elite 85h นี้สามารถวิเคราะห์คุณลักษณะโดยรอบนับพันเพื่อปรับระดับเสียงได้ดีที่สุด
ปัญญาประดิษฐ์ในหูฟัง? ใช่ แต่ในกรณีนี้ ไม่ใช่ทั้ง Google Assistant และ Alexa ใน Elite 85h แบรนด์ Jabra จากเดนมาร์กใช้ AI ในการวิเคราะห์บรรยากาศเสียงและเสียงรอบข้างแบบเรียลไทม์
กระบวนการที่เรียกว่า SmartSound นั้นใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยบริษัท audiing ของเยอรมนี จากข้อมูลของ Jabra สามารถตรวจจับลักษณะเสียงได้มากกว่า 6,000 ลักษณะ และใช้เพื่อปรับเสียงให้เข้ากับแต่ละบริบท
AI จดจำเสียงของสถานีหรือรถไฟ
ตัวอย่างเช่น แบรนด์อ้างอิงถึงผู้ใช้ที่เดินทางจากโถงสถานีที่มีเสียงดังไปยังตู้รถไฟที่เงียบกว่ามาก จากนั้นระบบจะปรับระดับเสียงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่โดยอัตโนมัติ มันจะเปิดใช้งานหนึ่งในสามโหมดที่นำเสนอโดยอัตโนมัติ (การเดินทาง ในที่สาธารณะ หรือ ในส่วนตัว) ผู้ใช้สามารถปรับแต่งตัวเลือกเหล่านี้ได้ตามสถานการณ์และจัดเก็บไว้ในหน่วยความจำเพื่อนำไปใช้อีกครั้งโดยอัตโนมัติ
ระบบนี้จะปรับปรุงการลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟที่รวมอยู่ในชุดหูฟังด้วย จากนั้นเราจะคิดถึงกระบวนการที่ Sony นำเสนอให้กับชุดหูฟังระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะหูฟัง WF-1000X “ไร้สายที่แท้จริง”หรือลูกชาย casque WH-1000XM3- ไม่จำเป็นต้องน่าเชื่อถือ แต่ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวที่บันทึกโดยสมาร์ทโฟน ไม่ใช่การฟังเสียงรอบข้าง
ประกาศเอกราชเป็นบันทึก
โปรดทราบว่า Jabra กลับมาให้ความสำคัญกับความเชี่ยวชาญด้านชุดหูฟังโทรศัพท์อีกครั้ง โดยมอบไมโครโฟน 6 ตัวสำหรับเสียงพูดโดยเฉพาะให้กับ Elite 85h อีกสองตัวเป็นแบบผสมระหว่างการลดเสียงรบกวนและเสียงพูด และสุดท้ายอีกสองตัวสุดท้ายมีไว้สำหรับการลดเสียงรบกวนโดยเฉพาะ
ชุดหูฟังมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน IP52 เพื่อป้องกันฝุ่นและฝน ในที่สุด Jabra ก็ประกาศอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 32 ชั่วโมง หากรักษาสัญญาได้ก็จะเอาชนะคู่แข่งหลักได้ไกลเช่นกันBose QuietComfort 35 II(20:14 วัดในห้องปฏิบัติการของเรา) และ Sony WH-1000XM3 (วัด 27 ชั่วโมง) Elite 85h จะวางตลาดในเดือนเมษายนปีหน้าที่ราคา 299 ยูโรหรือน้อยกว่าคู่แข่งรายใหญ่ทั้งสองนี้ถึง 80 ยูโร
หา ข่าวทั้งหมดจาก CES 2019 บน 01net.com
🔴 เพื่อไม่พลาดข่าวสาร 01net ติดตามเราได้ที่Google ข่าวสารetวอทส์แอพพ์-