ด้วย iPhone 14 Apple สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดการขอราคาสมาร์ทโฟนได้อีกครั้ง ตามที่นักวิเคราะห์ระบุว่า iPhone ใหม่อาจมีราคาสูงกว่า iPhone 13 ถึง 100 ยูโร
แบรนด์ Apple เป็นที่รู้จักในด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ราคาแพงซึ่งสามารถขึ้นราคาโทรศัพท์ได้อีกครั้ง คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับ iPhone 14 ซึ่งอาจมีราคาแพงกว่า iPhone 13 ประมาณ 100 ยูโร
ราคา iPhone 14: สู่ความไม่มีที่สิ้นสุดและเหนือกว่า
มีความไม่รอบคอบมากมายเกี่ยวกับ iPhone 14 รุ่นถัดไป- Apple ควรนำเสนอผลิตภัณฑ์สี่รายการ โดยมีความแตกต่างระหว่างรุ่น "คลาสสิก" และรุ่น "โปร" มากกว่า เรากำลังพูดถึงการออกแบบใหม่ที่ไม่มีรอยบากและชิป A16 Bionic ใหม่สำหรับรุ่นที่แพงที่สุดสองรุ่น คุณสมบัติใหม่ที่ iPhone 14 ที่ "ราคาไม่แพง" ที่สุดจะไม่ได้รับประโยชน์หากเราสามารถเรียกมันได้
เช่นเดียวกับทุกปีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัว iPhone ใหม่ ตามประเพณีในเดือนกันยายน Apple ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ในห่วงโซ่อุปทาน แต่อัตราเงินเฟ้อมีอยู่ทั่วโลกและต้นทุนก็เพิ่มขึ้นในห่วงโซ่อุปทานเช่นกัน ตามที่ Dan Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities กล่าว:
“ราคาได้เพิ่มขึ้นทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน และ Cupertino จะต้องส่งต่อต้นทุนเหล่านี้ไปยังผู้บริโภคในระหว่างการเปิดตัวครั้งนี้ -
อุตสาหกรรมทั้งหมดได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น
ปีที่แล้วTSMC ประกาศขึ้นราคา 10 ถึง 20%- ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกตามมาด้วย Samsung ซึ่งจะต้องส่งต่อต้นทุนเหล่านี้ไปยังราคาของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายและต่อผู้บริโภคด้วย เรากำลังพูดถึงการขึ้นราคาประมาณ 15 ถึง 20%
ครึ่งหลังของปี 2022 จะถูกทำเครื่องหมายโดยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ทุกคนตั้งตารอคอยแต่ยังอาจเพิ่มราคาของรุ่นเหล่านี้ด้วย ดังนั้น Apple ย่อมไม่หนีกระแสที่ส่งผลกระทบต่อทั้งอุตสาหกรรมนี้ไป เราได้กล่าวไปแล้วราคา iPhone 14 Pro Max ที่สามารถทำสถิติใหม่ได้แต่ iPhone 14 ทั้งหมดน่าจะขึ้นราคาเท่านี้
เราจะต้องรอการนำเสนอ iPhone 14 ในเดือนกันยายนเพื่อยืนยันหรือปฏิเสธข่าวลือนี้อย่างแน่นอน การเพิ่มหนึ่งร้อยยูโรจะเท่ากับ iPhone 14 ที่ 1,009 ยูโร (909 ยูโรสำหรับ iPhone 13) และ iPhone 14 Pro ซึ่งจะเริ่มต้นที่ 1,259 ยูโร (1,159 ยูโรสำหรับ iPhone 13 Pro) คุณมีวิธีแก้ปัญหาสองวิธี: เลี้ยวเลยหรือเริ่มวางถั่วไว้ข้างๆ
🔴 เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารจาก 01net ติดตามเราได้ที่Google ข่าวสารetวอทส์แอพพ์-
แหล่งที่มา : แอปเปิล อินไซเดอร์