ผู้จัดพิมพ์เพิ่งเผยแพร่รายงานการตรวจสอบซึ่งยืนยันผลเบื้องต้นและให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับความปลอดภัยระดับต่ำของเครื่องที่วิเคราะห์ ซึ่งตอกย้ำความไม่สอดคล้องกันของเรื่องนี้
เรื่องราวการสอดแนมที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับ Kaspersky Lab กำลังเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ สำนักพิมพ์รัสเซียเพิ่งตีพิมพ์ aรายงานการสอบสวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของหนังสือพิมพ์อเมริกันหลายฉบับ ซึ่งกล่าวหาว่าเขาอนุญาตให้ขโมยข้อมูลลับในคอมพิวเตอร์ของผู้ทำงานร่วมกันของ NSA รายงานฉบับนี้เป็นการยืนยันและให้รายละเอียดว่ารายงานเบื้องต้นเผยแพร่เมื่อปลายเดือนตุลาคม ดังนั้น ผู้จัดพิมพ์จึงดูดซอร์สโค้ดและเอกสารลับสี่ฉบับจากคอมพิวเตอร์ในพื้นที่บัลติมอร์ แต่สิ่งนี้ถูกกล่าวหาว่ากระทำบนพื้นฐานของการตรวจจับไบนารีที่เป็นอันตรายเท่านั้น ผู้จัดพิมพ์จะใช้ระบบลายเซ็นในทางที่ผิดเพื่อค้นหาเอกสารลับบนคอมพิวเตอร์ในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ ซอร์สโค้ดและเอกสารลับจะถูกลบออกจากเครือข่าย Kaspersky Lab ทันที ไม่มีการบุกรุกโดยบุคคลที่สาม
ในกรณีที่รายงานให้ข้อมูลใหม่คือสถานะของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ข้อมูลนี้ ตามรายงานเบื้องต้น เครื่องนี้ติดโทรจัน (Backdoor.Win32.Mokes.hlv) ที่มาจากตัวสร้างคีย์การเปิดใช้งานสำหรับ Microsoft Office การสอบสวนภายในเผยให้เห็นว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้มีมัลแวร์อื่น ๆ อย่างน้อย 120 ตัวที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับกลุ่มสมการ (หรือที่เรียกว่า NSA) ที่นั่นเราพบแบ็คดอร์อีกสามตัว ม้าโทรจันประมาณยี่สิบตัว รูทคิท และโฮสต์ของแอดแวร์และตัวดาวน์โหลด
เครื่องพังหมด
ตามรายงานของ Kaspersky Lab คอมพิวเตอร์เสียหายมากจนเป็นการยากที่จะเข้าใจว่าเจ้าของสามารถรับความเสี่ยงในการจัดเก็บข้อมูลเป็นความลับเหมือนกับซอร์สโค้ดของสปายแวร์ของรัฐหรือเอกสารลับได้อย่างไร ด้วยการรักษาความปลอดภัยระดับต่ำนี้ Kaspersky Lab เชื่อว่าผู้ใช้รายนี้ “สามารถเปิดเผยข้อมูลแก่นักแสดงได้มากมาย”- ซึ่งยังดูแปลกอยู่เนื่องจากเจ้าของเห็นได้ชัดว่าเป็นแฮกเกอร์ NSA ดังนั้นจึงเป็นคนที่คุ้นเคยกับปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี
นี่ไม่ใช่แค่ความไม่สอดคล้องกันเพียงอย่างเดียวในกรณีนี้ จากข้อมูลของ Kaspersky Lab ข้อมูลที่เป็นความลับถูกตรวจพบและถูกดูดออกไปในเดือนกันยายน 2014 แต่ตามรายงานของสื่ออเมริกา ข้อมูลรั่วไหลนี้เกิดขึ้นในปี 2015 ดังนั้นเราจึงสงสัยได้ว่าคอมพิวเตอร์ที่ Kaspersky Lab วิเคราะห์นั้นเป็นเครื่องที่อ้างอิงสื่อจริงหรือไม่ โองการ น่าเสียดายที่ทางการอเมริกันยังไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ และไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นคำต่อคำ
🔴 เพื่อไม่พลาดข่าวสาร 01net ติดตามเราได้ที่Google ข่าวสารetวอทส์แอพพ์-