Google: 13 เคล็ดลับในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหา

Google นำเสนอเครื่องมือค้นหาที่มีประสิทธิภาพซึ่งคุณสามารถทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยใช้คำนำหน้า โอเปอเรเตอร์ และอักขระพิเศษ

เครื่องมือค้นหาของ Google ใช้งานง่าย เพียงคุณไปที่ไซต์ พิมพ์คำไม่กี่คำ เปิดการค้นหา คุณก็ไปได้ทันที ฟังก์ชั่นนี้สามารถเข้าถึงได้โดยตรงบนหน้าจอหลักของสมาร์ทโฟน Android หลายรุ่น

อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ดีที่คุณไม่จำเป็นต้องทราบรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดของ Google และด้วยเหตุผลที่ดียิ่งกว่านั้นเพื่อรวมคุณสมบัติต่างๆ มากมายเข้าด้วยกันเครื่องมือค้นหาช่วยให้คุณใช้โอเปอเรเตอร์การค้นหาจำนวนหนึ่งเพื่อรับคำตอบที่เกี่ยวข้องมากขึ้น

เพื่อช่วยให้คุณก้าวต่อไป เราได้แสดงเคล็ดลับและคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ของ Google ไว้แล้ว

ดาวน์โหลดGoogle บน Download.com(ฟรี)

1. ใช้เครื่องหมายคำพูด

เมื่อคุณพิมพ์คำค้นหา Google จะค้นหาหน้าเว็บที่มีคำเหล่านั้นทั้งหมด ตามลำดับใดก็ได้ หากคุณกำลังมองหาวลีที่เฉพาะเจาะจง เช่น“อัลบั้ม U2 ใหม่”ควรใช้เครื่องหมายคำพูดจะดีกว่า นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการบังคับสะกดคำอีกด้วย

แท้จริงแล้ว บางครั้ง Google สามารถตัดสินได้ว่าการสะกดคำนั้นไม่ถูกต้อง (เมื่อไม่เป็นเช่นนั้น) และส่งคืนผลลัพธ์ที่ไม่เหมาะกับคุณ

2. ใช้ดาวถ้าคุณไม่รู้คำศัพท์

หากคุณไม่แน่ใจคำใดในคำถาม Google ของคุณ คุณสามารถแทนที่คำนั้นด้วยอักขระรูปดาวได้ ตัวอย่างเช่น พิมพ์“โอ้ *ชีวิต”เพื่อรับเพลง Sacha Distel อันโด่งดัง

หากจำเป็นคุณสามารถใช้ดาวได้หลายครั้งในประโยคของคุณเพื่อแทนที่คำที่หายไปแต่ละคำ

3. ใช้สัญลักษณ์ – เพื่อแยกคำออก

สัญลักษณ์-ช่วยให้คุณสามารถแยกคำบางคำออกจากผลการค้นหาของคุณได้ คุณเพียงแค่ต้องจำไว้ว่าอย่าเว้นช่องว่างระหว่างสัญลักษณ์และคำที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างเช่น คุณสามารถพิมพ์ “สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ » -Samsungเพื่อไม่ให้แบรนด์ปรากฏในผลการค้นหาของคุณ

4. ค้นหาคำใดคำหนึ่งหรืออีกคำหนึ่ง

หากคุณค้นหาหลายคำ Google จะค้นหาหน้าเว็บที่มีคำทั้งหมด หากต้องการค้นหาคำใดคำหนึ่งคุณต้องแยกคำเหล่านั้นด้วยตัวดำเนินการ OR(“หรือ” เป็นภาษาอังกฤษ)

เช่น การวิจัยตัวลิ่นหรือลามันตินส่งคืนหน้าที่ประกอบด้วยสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งจากสองตัวนั้น

คุณสามารถใช้โอเปอเรเตอร์กับคำได้มากเท่าที่คุณต้องการ (mot1 หรือ mot2 หรือ mot3 หรือ mot4…) บน Google

5. จำกัดขอบเขตการค้นหาของคุณไว้ที่ไซต์เดียว

หากต้องการจำกัดการค้นหาของคุณเฉพาะบางไซต์บน Google ให้ใช้คำนำหน้าเว็บไซต์:ตามด้วยชื่อเว็บไซต์ เป็นต้น-เว็บไซต์:01net.com »- คุณไม่จำเป็นต้องพิมพ์ www ก่อนชื่อเว็บไซต์

ใช้อักขระดาวสำหรับการค้นหาทั่วไป เช่นเว็บไซต์:*.frเพื่อค้นหาเฉพาะในเว็บไซต์ภาษาฝรั่งเศส

6. ค้นหาเฉพาะในข้อความ ชื่อเรื่อง หรือ URL ของหน้าเว็บ

Google มีคำนำหน้าหลายคำเพื่อระบุตำแหน่งที่คุณต้องการค้นหาเนื้อหา: ในชื่อหน้า ในข้อความ หรือในที่อยู่เว็บ (URL) หากต้องการค้นหาคำที่ปรากฏเฉพาะในข้อความของหน้า ให้ใช้คำนำหน้าข้อความ:ตามด้วยคำ (โดยไม่มีช่องว่างระหว่างคำทั้งสอง)

นอกจากนี้ Google ยังมีความคิดที่ดีที่จะใส่คำนำหน้าด้วยข้อความทั้งหมด:ซึ่งบ่งบอกว่าต้องค้นหาคำที่ตามมาทุกคำในข้อความของหน้า ดังนั้นการค้นหาอัลลินเท็กซ์:mot1 mot2 mot3เหมือนกันกับข้อความ:mot1 ข้อความ:mot2 ข้อความ:mot3-

หากต้องการค้นหาเฉพาะในชื่อเรื่อง ให้ใช้คำนำหน้าชื่อ:etชื่อทั้งหมด:(allintitle: เกี่ยวข้องกับทุกคำที่ตามมา คล้ายกับ allintext :) หากต้องการค้นหาเฉพาะในที่อยู่เว็บ ให้ใช้ใส่ URL:etอัลลิเนิล:-

7. ค้นหาไฟล์ประเภทใดประเภทหนึ่ง

Google อนุญาตให้คุณค้นหาอินเทอร์เน็ตในไฟล์แทนที่จะเป็นหน้าเว็บ ตัวอย่างเช่น สถานที่ประเภทไฟล์:pdfในตอนต้นของการค้นหาเพื่อค้นหาไฟล์ในรูปแบบ PDF เช่น เอกสารประกอบ

ในประเภทไฟล์ที่จะระบุภายหลังประเภทไฟล์:Google อนุญาตให้คุณค้นหาในเอกสารข้อความ (txt, rtf), Microsoft (doc, docx, xls, xlsx, ppt, pptx) หรือ OpenOffice (odp, ods, odt)

8. ค้นหาภาพที่คล้ายกับภาพที่ให้ไว้

Google สามารถค้นหาด้วยข้อความ แต่ยังค้นหารูปภาพได้ด้วย ไปที่เว็บไซต์รูปภาพ.google.cometคลิกที่ไอคอนกล้อง- เครื่องมือค้นหาขอให้คุณโหลดไฟล์ที่มีรูปภาพหรือระบุที่อยู่เว็บ ในผลการค้นหาสำหรับข้อความค้นหานี้ คุณจะได้รับเว็บไซต์ที่มีรูปภาพของคุณ แต่ก็มีรูปภาพที่คล้ายกันด้วย

9. ค้นหาไซต์ที่คล้ายกับไซต์โปรดของคุณ

หากต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่อยู่ใกล้กับไซต์ที่มีอยู่ใน Google ให้เพิ่มคำนำหน้าที่เกี่ยวข้อง:เช่นโดยการพิมพ์ที่เกี่ยวข้อง:lexpress.fr-

10. ใช้ Google Dictionary และนักแปล

ด้วยคำนำหน้ากำหนด:คุณจะได้รับคำแปลโดยตรง เช่น โดยการพิมพ์กำหนด:จำนอง- คุณยังมีสิทธิ์เข้าถึงฟังก์ชันการแปลที่คุณสามารถเปิดใช้งานได้โดยตรงจากคำนำหน้าแปล:- จากนั้น สิ่งที่คุณต้องทำคือเลือกภาษาต้นทางและปลายทาง

12. คำนวณและแปลง

จำเป็นต้องดำเนินการทางคณิตศาสตร์หรือไม่? ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องคิดเลข พิมพ์ลงในแถบค้นหาของ Google เป็นต้น123 + 456เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ เป็นไปได้ที่จะแสดงเส้นโค้งของฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์โดยการป้อนคำจำกัดความของมัน

Google ยังสามารถแปลงหน่วยจักรวรรดิด้วยการพิมพ์ข้อความค้นหา เช่น123 ไมล์ต่อชั่วโมง = กม./ชม(แปลงจากไมล์ต่อชั่วโมง เป็น กม./ชม.)

13. เปิดใช้งานแบบฟอร์มการค้นหาขั้นสูง

สุดท้ายนี้ Google มีแบบฟอร์มการค้นหาขั้นสูงที่ช่วยให้คุณสามารถไปได้ไกลยิ่งขึ้น หากต้องการเข้าถึงให้ไปที่หน้านี้- วิธีนี้ช่วยให้คุณไม่ต้องจำคำนำหน้าที่ต้องป้อนสำหรับการค้นหาเฉพาะเจาะจง