ผู้ปกครองหวังว่าลูก ๆ ของพวกเขาจะไม่ส่งข้อความและขับรถ แต่การศึกษาใหม่ชี้ให้เห็นว่าผู้ปกครองหลายคนมีความผิดในการทำงานหลายอย่างหลังพวงมาลัย
ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ที่สำรวจรายงานการทำงานหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขณะขับรถลูก ๆ ของพวกเขาในเดือนที่ผ่านมาเช่นการพูดคุยทางโทรศัพท์ส่งข้อความหรือเปลี่ยนดีวีดีหรือซีดี
การทำงานหลายประเภทอื่น ๆ ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน: ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์รายงานว่าปฏิบัติหน้าที่ดูแลเด็กขณะขับรถเช่นการให้ลูกหรือหยิบของเล่นที่หล่นลงมาและ 70 เปอร์เซ็นต์รายงานว่ามีส่วนร่วมในการดูแลตนเองเช่นการดูแลกรูมมิ่งหรือรับประทานอาหาร
ยิ่งไปกว่านั้นการทำงานหลายอย่างเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในหมู่ผู้ปกครองที่รายงานว่าอยู่ในกอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อถึงจุดหนึ่งในชีวิตของพวกเขาเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยตกอยู่ในอุบัติเหตุนักวิจัยกล่าว
“ ได้รับความสนใจมากมายจากผู้ขับขี่วัยรุ่นที่ฟุ้งซ่านอย่างไรก็ตามผลลัพธ์ของเราบ่งชี้ว่าผู้ปกครองมักจะฟุ้งซ่านขณะขับรถ” นักวิจัยการศึกษาดร. มิเชลเมซีจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนกล่าวในแถลงการณ์
นักวิจัยสำรวจผู้ปกครองมากกว่า 600 คนซึ่งเด็ก ๆ ได้รับการรักษาที่แผนกฉุกเฉินสองแห่งในรัฐมิชิแกนไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เด็กอายุ 1 ถึง 12 ปี
ผู้ปกครองประมาณครึ่งหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาขับรถขณะพยายามหาเส้นทางโดยใช้แผนที่หรืออุปกรณ์ GPS ขณะขับรถ
การส่งข้อความเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวน้อยที่สุดโดยมีผู้ปกครองรายงานเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อยส่งข้อความขณะขับรถลูก ๆ ของพวกเขาในเดือนที่ผ่านมา
ผู้ปกครองยังถูกถามว่าประเภทของข้อ จำกัด ด้านความปลอดภัยที่พวกเขาใช้สำหรับลูก ๆ ของพวกเขาและนักวิจัยพิจารณาว่าการยับยั้งความปลอดภัยนั้นเหมาะสมสำหรับอายุของเด็ก (ตัวอย่างเช่นพวกเขาใช้เบาะรถยนต์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีหรือเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่างอายุ 8 ถึง 12 ปี)
ผู้ปกครองที่ไม่ได้ใช้ความยับยั้งชั่งใจด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมมีแนวโน้มที่จะรายงานการขับขี่ในขณะที่ฟุ้งซ่านมากกว่าผู้ที่ใช้ข้อ จำกัด ด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมสำหรับเด็ก
“ งานวิจัยของเราได้ระบุพื้นที่ที่มีผลกระทบสูงเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของผู้โดยสารเด็ก” Macy กล่าว
การศึกษาจะถูกนำเสนอในวันนี้ (6 พฤษภาคม) ในการประชุมประจำปีของสมาคมวิชาการกุมารเวชศาสตร์ในวอชิงตันดีซี
ส่งผ่าน: มัลติทาสก์ขณะขับรถเป็นเรื่องธรรมดาในหมู่ผู้ปกครอง
เรื่องนี้จัดทำโดยMyHealthNewsDailyไซต์น้องสาวของ Livescience ติดตาม Rachael Rettner@rachaelrettner-ติดตาม MyHealthNewsDaily@myhealth_mhnd-Facebook -Google+- เผยแพร่ครั้งแรกบน MyHealthNewsDaily