ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69 พันล้านดอลลาร์ แผนกอิเล็กทรอนิกส์ของ Samsung กลายเป็นหมายเลข 1 ของโลกในด้านเซมิคอนดักเตอร์ Intel จึงสูญเสียตำแหน่งแชมป์ที่ครองมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1992
ปีที่แล้วอาจจะดีสำหรับ Intel แต่ก็ดียิ่งขึ้นไปอีกสำหรับแผนกเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung เมื่อยักษ์ใหญ่ในอเมริการายนี้ทำสถิติมูลค่าการซื้อขาย 62.8 พันล้านดอลลาร์ คู่แข่งชาวเกาหลีก็ระเบิดเคาน์เตอร์ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69 พันล้านดอลลาร์ สงครามตัวเลขซึ่งกลายเป็นเรื่องสำคัญเมื่อเราเริ่มดูอันดับผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้ ด้วยการแซงหน้า Intel ทำให้ Samsung ยุติการครอบงำอย่างไม่มีการแบ่งแยกตลอด 25 ปีดังที่หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ Bloomberg เล่า-
ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของ Intel แรงผลักดันจาก Samsung นี้ถือเป็นการเปลี่ยนจากยุคพีซีที่ Intel เป็นแชมป์มาโดยตลอด มาสู่ยุคมือถือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Samsung โดดเด่น และไม่ใช่แค่เพียงเล็กน้อย: หน้าจอ โปรเซสเซอร์มือถือ หน่วยความจำแฟลช (ที่เก็บข้อมูล) หรือแม้แต่ RAM Samsung รู้วิธีการผลิตทุกสิ่งในห่วงโซ่ส่วนประกอบของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
ดังที่ Bloomberg เล่าว่า ส่วนหน่วยความจำที่ Samsung โดดเด่นนั้นถูกสร้างขึ้นโดย Intel ในทศวรรษ 1960 ส่วน Intel ก็เข้ามามีบทบาทในทศวรรษ 1990 เนื่องจากแรงกดดันจากกลุ่มญี่ปุ่น กลุ่มญี่ปุ่นซึ่งต่อมาได้ออกใบอนุญาตทางเทคโนโลยีให้กับกลุ่มเกาหลี… ซึ่งท้ายที่สุดก็แซงหน้าทุกคนไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Intel ก็กลับมาพัฒนาอีกครั้งโดยการพัฒนาหน่วยความจำเหมือนออปเทนแต่เส้นทางยังอีกยาวไกลที่จะกลับคืนสู่การแข่งขันได้อย่างเต็มที่
ด้วยความที่ยอดขาย PC ลดลงอย่างช้าๆ แต่ถาวร การแข่งขันจากชิป ARM ไปจนถึงพีซีและความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น Intel จะต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงต่อไปเพื่อหยุดการสาบานด้วยโปรเซสเซอร์ x86 เท่านั้น การปฏิวัติที่ดูเหมือนว่าจะดำเนินไปเนื่องจากประสิทธิภาพของ Samsung ไม่ควรบดบังประสิทธิภาพของ Intel ที่ยังคงอยู่ แม้จะอยู่ในอันดับที่ 2 ซึ่งนำหน้าคู่แข่งที่เหลือมากก็ตาม
🔴 เพื่อไม่พลาดข่าวสาร 01net ติดตามเราได้ที่Google ข่าวสารetวอทส์แอพพ์-