ชีวประวัติ Julius Caesar: ข้อเท็จจริงและประวัติศาสตร์

Caius Julius Caesar เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 100 ปีก่อนคริสตกาลและถูกแทงจนตายในวุฒิสภาโรมันเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 44 ปีก่อนคริสตกาล

เมื่อถึงเวลาที่เขาถูกฆ่าตายเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเผด็จการของโรมมาตลอดชีวิตและเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในสาธารณรัฐโรมัน- “ เขาเป็นนักการเมืองและรัฐบุรุษซึ่งในที่สุดก็มีอำนาจสูงสุดในสาธารณรัฐโรมันและทำให้ตัวเองเป็นราชาในทุกความเคารพในทางปฏิบัติแม้ว่าเขาจะไม่เคยใช้ชื่อกษัตริย์” นักประวัติศาสตร์ Adrian Goldsworthy เขียนไว้ในหนังสือของเขา”Caesar: ชีวิตของยักษ์ใหญ่"(สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเยล, 2549)

"ในช่วงห้าสิบหกปีที่เขามีหลายสิ่งหลายอย่างรวมถึงผู้ลี้ภัยนักโทษนักการเมืองผู้สูงอายุผู้นำกองทัพผู้สนับสนุนด้านกฎหมายกบฏเผด็จการ-อาจเป็นพระเจ้า-เช่นเดียวกับสามีพ่อพ่อรักและผู้ล่วงประเวณี" Goldsworthy เขียน

ที่เกี่ยวข้อง:จักรวรรดิโรมัน: ผู้ปกครองการขยายตัวและฤดูใบไม้ร่วง

ชีวิตวัยเด็ก

พ่อของ Caesar ยังชื่อ Caius (บางครั้งสะกด Gaius) และชื่อแม่ของเขาคือ Aurelia ในขณะที่คำว่า "การผ่าตัดคลอด"ได้รับการตั้งชื่อตามเขาไม่มีหลักฐานว่าวิธีการคลอดนี้ถูกใช้เพื่อส่งมอบจูเลียสซีซาร์" แม้ว่าขั้นตอนจะรับชื่อของเขาในภายหลัง แต่ก็ไม่มีหลักฐานโบราณที่จะแนะนำว่าซีซาร์ถูกส่งมอบโดยส่วนการผ่าตัดแม้ว่ากระบวนการนี้จะเป็นที่รู้จักในโลกโบราณ

ซีซาร์เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยด้วยเชื้อสายอันสูงส่ง สมาชิกในครอบครัวของเขาคือ "ผู้ดีซึ่งหมายความว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของชนชั้นสูงที่เก่าแก่ที่สุดที่กรุงโรมซึ่งในยุคแรกของสาธารณรัฐมีอำนาจผูกขาดโดยการปกครองของ Plebeians จำนวนมาก" Goldsworthy เขียน ในขณะที่ครอบครัวของเขาไม่ได้ทรงพลังเป็นพิเศษในเวลาที่ซีซาร์เกิดบรรพบุรุษของเขาบางคนดำรงตำแหน่งในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสในสาธารณรัฐโรมัน Goldsworthy ตั้งข้อสังเกต

ซีซาร์มีความกระตือรือร้นทางการเมืองในฐานะวัยรุ่นฝ่ายตรงข้ามกับลูเซียสคอร์เนเลียสซัลลาซึ่งกลายเป็นเผด็จการของกรุงโรมใน 82 ปีก่อนคริสตกาลตามที่นักเขียนชาวกรีกโบราณพลูตาร์ค (อาศัยอยู่ 46 ถึงโฆษณา 116) ในหนังสือของเขา "คู่ขนานชีวิต" Gaius Marius หนึ่งในคู่ต่อสู้ที่โดดเด่นที่สุดของ Sulla ได้แต่งงานกับครอบครัวของ Caesar และสิ่งนี้อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของ Caesar ซัลล่าชอบที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาและซีซาร์วัยรุ่นถูกบังคับให้หนีไปโรมพลูตาร์ดเขียน เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาถูกทหารของซัลล่าจับ แต่หนีไปโดยจ่ายสินบน

ที่เกี่ยวข้อง:ทำไมโรมถึงตก?

ซีซาร์สามารถกลับไปโรมได้หลังจากที่ซัลล่าเสียชีวิตใน 78 ปีก่อนคริสตกาล แต่เขาก็ออกเดินทางหลังจากศึกษาคำปราศรัยบนโรดส์เกาะใกล้กับตุรกีสมัยใหม่ เมื่อถึงจุดหนึ่งในการเดินทางของเขาเขาถูกโจรสลัดถูกจับซึ่งอย่างน้อยก็ตามนักเขียนที่ใกล้เคียงกันหลายคนโดยประเมินว่าซีซาร์ประเมินต่ำเกินไป “ เมื่อโจรสลัดเรียกร้องความสามารถยี่สิบคนสำหรับค่าไถ่ของเขาเขา [ซีซาร์] หัวเราะเยาะพวกเขาเพราะไม่รู้ว่าเชลยของพวกเขาคือใครและข้อตกลงของเขาเองตกลงที่จะให้พวกเขาห้าสิบ” พลูติอาร์ พลูตาร์คไม่ได้บอกว่าพรสวรรค์ทำอะไร แต่เงินน่าจะเป็น ความสามารถของชาวโรมันสามารถชั่งน้ำหนักได้ในช่วงเวลาที่กำหนดเป็นเรื่องของการถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ แต่มีแนวโน้มว่าจะอยู่ระหว่าง 60 ถึง 100 ปอนด์ (27 ถึง 45 กิโลกรัม) ในเวลาของซีซาร์

ในขณะที่มีการรวบรวมเงิน Caesar ใช้เวลากับโจรสลัด เขา "เขียนบทกวีและคำปราศรัยที่เขาอ่านออกเสียงให้กับพวกเขาและคนที่ไม่ชื่นชมสิ่งเหล่านี้เขาจะเรียกใบหน้าของพวกเขาที่ไม่รู้หนังสือและมักจะขู่ว่าจะแขวนพวกเขาทั้งหมดพวกโจรสลัดมีความสุขในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามการคุกคามของซีซาร์ที่จะฆ่าโจรสลัดนั้นไม่ใช่เรื่องตลก หลังจากจ่ายค่าไถ่และ Caesar ได้รับการปล่อยตัวเขา "จัดการเรือทันทีและวางทะเลจากท่าเรือ Miletus [ในตุรกียุคใหม่] กับโจรเขาจับพวกเขาด้วยเช่นกัน

อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของซีซาร์

อาชีพทางการเมืองของซีซาร์ค่อยๆเริ่มขึ้นหลังจากที่เขากลับมาที่กรุงโรมประมาณ 74 ปีก่อนคริสตกาลและเขาใช้ความมั่งคั่งและทักษะของครอบครัวเพื่อช่วยให้พลังของเขาเติบโต

“ เขา [มี] อิทธิพลทางการเมืองขนาดใหญ่และค่อยๆเพิ่มขึ้นเนื่องจากการต้อนรับอย่างฟุ่มเฟือยของเขาและความงดงามทั่วไปของโหมดชีวิตของเขา” Plutarch เขียน

ซีซาร์เป็นผู้พูดที่มีคารมคมคายซึ่งสามารถเปลี่ยนโศกนาฏกรรมส่วนตัวให้กลายเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองได้ เมื่อภรรยาคนแรกของเขาคอร์เนเลียเสียชีวิตใน 69 ปีก่อนคริสตกาลซีซาร์ใช้งานศพของเธอเพื่อเพิ่มการสนับสนุนของเขาโดยการทำลายประเพณีและให้คำปราศรัยที่ดึงดูดผู้คนและจัดแสดงด้านการดูแลของเขา

ซีซาร์ยังใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเป็นหนี้เพื่อที่เขาจะได้มอบของขวัญและซื้อการสนับสนุนทางการเมืองต่อไป “ เขาไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้จ่ายเงินและคิดว่าจะซื้อชื่อเสียงชั่วคราวและระยะสั้นในราคาที่ดีแม้ว่าในความเป็นจริงเขากำลังซื้อสิ่งที่มีมูลค่าสูงสุดในราคาเล็ก ๆ ” Plutarch เขียน รูปแบบเกิดขึ้นที่ Caesar ได้รับเลือกหรือตั้งชื่อให้อยู่ในตำแหน่งใช้เงินจำนวนมากของตัวเองในโครงการสาธารณะเกมหรือผลประโยชน์อื่น ๆ จากนั้นได้รับเลือกหรือตั้งชื่อไปยังสำนักงานอื่น

ซีซาร์ยังทำหน้าที่เป็นผู้ว่าการโรมันที่ควบคุมส่วนหนึ่งของไอบีเรียจาก 61 ถึง 60 ปีก่อนคริสตกาลซึ่งเขาสั่งกองทัพที่ต่อสู้กับชนเผ่าที่ต่อต้านการปกครองของโรมัน

เมื่อเขาอยู่ในสเปนซีซาร์ใช้เวลาอ่านสิ่งที่เขาสามารถทำได้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอเล็กซานเดอร์มหาราช- ซีซาร์ร้องไห้อย่างที่เขาทำ เมื่อซีซาร์ "อยู่ในยามว่างและกำลังอ่านจากประวัติศาสตร์ของอเล็กซานเดอร์เขาก็หลงทางไปเป็นเวลานานแล้วก็น้ำตาไหล" พลูตาร์ดเขียน เมื่อเพื่อนของซีซาร์ถามว่าทำไมซีซาร์ตอบว่า: "ในขณะที่อเล็กซานเดอร์เมื่ออายุของฉันเป็นราชาของผู้คนมากมายฉันยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม" พลูตาร์ดเขียน

ในขณะที่ Caesar สามารถซื้อและจัดทำเส้นทางของเขาในตำแหน่งอาวุโสเขาถูกบังคับให้ลึกลงไปในหนี้และในที่สุดก็กลายเป็นพันธมิตรกับ Marcus Licinius Crassus หนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในกรุงโรมซึ่งตกลงที่จะช่วยเหลือทางการเงินให้ซีซาร์เพื่อแลกกับการสนับสนุนทางการเมืองของเขา ในที่สุดชายสองคนก็เป็นพันธมิตรกับ Gnaeus Pompeius Magnus หรือที่รู้จักกันในชื่อ Pompey ซึ่งเป็นนายพลโรมันและนักการเมืองที่ทรงพลังเพื่อสร้างสามวิกฤตที่ปกครองสาธารณรัฐโรมัน ซีซาร์แต่งงานกับจูเลียลูกสาวของเขากับปอมเปย์ประมาณ 59 ปีก่อนคริสตกาลเพื่อสร้างพันธมิตรที่ใกล้ชิด

ใน 58 ปีก่อนคริสตกาลซีซาร์ได้รับคำสั่งกองกำลังทหารขนาดใหญ่ในกอลและใช้โอกาสที่จะพิชิตมันทำให้ชื่อตัวเองเป็นผู้บัญชาการทหาร ระหว่าง 58 ปีก่อนคริสตกาลและ 50 ปีก่อนคริสตกาลกองทัพของเขาค่อยๆพิชิตกอลและประสบความสำเร็จในการลงจอดในสหราชอาณาจักร (แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยู่นาน) กองกำลังของเขายังต่อสู้กับชนเผ่าเยอรมันในเขตแดนของสิ่งที่ตอนนี้คือเยอรมนี

ที่เกี่ยวข้อง:เหรียญเงินจำนวนมากของเหรียญเงินโรมันยุคที่ค้นพบในประเทศเยอรมนี

ผู้เสียชีวิตนั้นยิ่งใหญ่ "ในชัยชนะของเขาในปี 46 [BC] Caesar ได้ระบุจำนวนทหาร [ศัตรู] ที่ถูกฆ่าตายในการต่อสู้ทั้งหมดของเขา - ดังนั้นไม่เพียง แต่ในกอล - เป็น 1,192,000"วารสารคลาสสิกใหม่ของอังกฤษในปี 2021 ในขณะที่ผู้เสียชีวิตทางทหารอาจเกินความจริง Raaflaub กล่าวว่าทั้งหมดนี้ไม่รวมถึงการไม่รวมตัวกันในหมู่คนที่ถูกฆ่าตายในระหว่างการรณรงค์ทางทหารของซีซาร์

“ มันไม่เพียง แต่ดาบโรมันที่ก่อให้เกิดความตายต่อประชากร Gallic ชิ้นส่วนขนาดใหญ่อดตายเพราะการเก็บเกี่ยวถูกยึดหรือถูกทำลายและการตั้งถิ่นฐานและการฟาร์มของพวกเขาถูกเผาไหม้

ซีซาร์บันทึกการรณรงค์ทางทหารของเขาในหนังสือชุดหนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ "Gallic Wars" ในขณะที่ Caesar อ้างว่าเขาพยายามจัดเตรียม truces และข้อตกลงกับชนเผ่าจากกอลเขายังระบุด้วยว่าเขาไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับการทำร้ายพลเรือน หลังจากกลุ่มหนึ่งเขาเรียกว่า "Sigambri" หนีออกจากกองทัพของเขาเขา "เผาหมู่บ้านและบ้านทั้งหมดของพวกเขาและตัดข้าวโพดของพวกเขา" Caesar เขียน (แปลโดย WA McDevitte & WS Bohn) เขาใช้กลยุทธ์เดียวกันเมื่อเขาลงจอดในสหราชอาณาจักร “ ความเสียหายควรทำกับศัตรูในการทำลายล้างดินแดนของพวกเขา” เขาเขียน

สงครามกลางเมือง

Triumvirate ระหว่าง Caesar, Crassus และ Pompey ไม่ได้อยู่ จูเลียเสียชีวิตให้กำเนิดใน 54 ปีก่อนคริสตกาลซึ่งสิ้นสุดการแต่งงานระหว่างซีซาร์และปอมเปย์ ในขณะเดียวกัน Crassus ถูกฆ่าตายเพื่อต่อสู้กับ parthians ในตุรกีสมัยใหม่ใน 53 ปีก่อนคริสตกาล

หากไม่มี Crassus เพื่อสร้างสมดุลระหว่างอำนาจความตึงเครียดระหว่าง Caesar และ Pompey เพิ่มขึ้นและในเดือนมกราคม 49 BC Caesar นำกองทหารของเขาข้ามแม่น้ำ Rubicon (ขอบเขตของภาคเหนือของอิตาลี) และเดินไปที่กรุงโรม ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์บางอย่างขณะที่ซีซาร์ข้าม Rubicon เขากล่าวว่าวลีที่โด่งดังในขณะนี้ซึ่งมักจะแปลว่า "การตายคือการโยน"

ปอมเปย์ละทิ้งกรุงโรมและถอยกลับไปที่กรีซและคาบสมุทรบอลข่านเพื่อรวบรวมกำลังเสริม เขาเผชิญหน้ากับซีซาร์ในกรีซในการต่อสู้ของ Pharsalus ใน 48 ปีก่อนคริสตกาล แต่ประสบความพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด ปอมเปย์หนีไปอียิปต์หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากฟาโรห์ปโตเลมีวัยรุ่นที่สิบสามของอียิปต์ ปโตเลมีควรร่วมกับภรรยาน้องสาวของเขาคลีโอพัตรา VIIแต่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับเธอและแทนที่จะปกครองคนเดียวในขณะที่คลีโอพัตราถูกเนรเทศ

แทนที่จะช่วยเหลือปอมเปย์ปโตเลมีฆ่าเขาและนำเสนอหัวของเขาต่อซีซาร์เมื่อเขามาถึงอเล็กซานเดรีย ปโตเลมีคาดว่าซีซาร์จะตอบโต้ในเชิงบวกว่าจะกำจัดศัตรูออกไป แต่ซีซาร์ก็ไม่มีความสุขและไม่ต้องการให้ฟาโรห์ฆ่าปอมเปย์ Plutarch เขียน Caesar อยู่ในอียิปต์ประมาณหนึ่งปีสั่งให้ Cleopatra VII เข้ารับตำแหน่งในฐานะผู้ดูแลร่วมของอียิปต์ ในการตอบสนองปโตเลมีพยายามต่อสู้กับซีซาร์และคลีโอพัตรา แต่ถูกฆ่าตายใน 47 ปีก่อนคริสตกาล

คลีโอพัตราและซีซาร์เริ่มโรแมนติกที่ส่งผลให้เธอให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่ง Caesarion ไม่ว่าเด็กจะเป็นซีซาร์อย่างแท้จริงเป็นเรื่องของการถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์และซีซาร์ไม่เคยยอมรับว่าเด็กเป็นของเขาเอง

กฎเพียงอย่างเดียว

หลังจากการตายของ Pompey Caesar เป็นผู้ปกครองคนเดียวของสาธารณรัฐโรมัน แต่การต่อสู้ของเขายังไม่จบ

ในขณะที่ปอมเปย์ตายไปแล้วก็ยังมีกองกำลังที่ภักดีต่อเขาและวุฒิสมาชิกโรมันบางคนเช่นกาโต้ผู้อายุน้อยปฏิเสธที่จะยอมรับการปกครองของซีซาร์ ซีซาร์ต่อสู้กับการต่อสู้ที่ประสบความสำเร็จกับกองกำลังเหล่านี้ในแอฟริกาเหนือและสเปน นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้กับ Pontus ซึ่งเป็นอาณาจักรทะเลดำที่ปอมเปย์พ่ายแพ้เมื่อไม่กี่ทศวรรษก่อน หลังจากประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับกองทัพจากพอนตัสซีซาร์ก็พูดคำพูดในภาษาละตินที่แปลว่า "ฉันมาฉันเห็นฉันพิชิต" หรือ "ฉันมาเห็นและพิชิต" แต่ไม่ว่า Caesar จะพิชิตเท่าไหร่ก็ยังมีอีกหลายคนในกรุงโรมที่ต่อต้านความคิดของชายคนหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งซีซาร์มีพลังมาก ความไม่พอใจนี้เกิดขึ้นแม้ว่าข้อเท็จจริงที่ว่าซีซาร์ก็เต็มใจที่จะให้อภัยอดีตคู่ต่อสู้

“ ระบอบการปกครองของเขาไม่ได้กดขี่และเขาให้อภัยและเลื่อนตำแหน่งศัตรูอดีตหลายคน” Goldsworthy เขียน ในทางตรงกันข้ามซัลล่าซึ่งเคยเป็นผู้ปกครองคนเดียวของกรุงโรมระหว่าง 82 ปีก่อนคริสตกาลและ 78 ปีก่อนคริสตกาลมีเพื่อนชาวโรมันหลายพันคนที่ถูกสังหารหลังจากที่เขาเข้ายึดอำนาจ

ที่เกี่ยวข้อง:สุสานของคลีโอพัตราอยู่ที่ไหน

ใน 45 BC Caesar ได้ใช้ระบบปฏิทินใหม่ในกรุงโรมตอนนี้เรียกว่าจูเลียนปฏิทินซึ่งโดดเด่น 365 วันต่อปีรวมถึงวันพิเศษในเดือนกุมภาพันธ์ทุก ๆ สี่ปี ระบบปฏิทินนี้ซึ่งซีซาร์เรียนรู้เกี่ยวกับในอเล็กซานเดรียนำปฏิทินโรมันเข้าใกล้ฤดูกาลที่แท้จริง เดือนที่ซีซาร์เกิดในที่สุดก็มีชื่อว่า "กรกฎาคม" เพื่อเป็นเกียรติแก่ซีซาร์

ปฏิทินใหม่ "เป็นผลลัพธ์ที่สำคัญยิ่งกว่าของการเยี่ยมชมอียิปต์ของเขามากกว่าการดื่มด่ำกับคลีโอพัตรา" แมรี่เคราเขียนศาสตราจารย์วิชาคลาสสิกที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในหนังสือของเธอ "SPQR: ประวัติความเป็นมาของโรมโบราณ" (Profile Books, 2015)

ในเดือนมกราคม 44 ปีก่อนคริสตกาลวุฒิสภาโรมันชื่อซีซาร์ "เผด็จการเพื่อชีวิต" ในขณะที่ซีซาร์ได้รับการสนับสนุนโดยรวมเพียงพอจากวุฒิสภาเพื่อให้ได้มาตรการที่ผ่านมามีวุฒิสมาชิกหลายคนนำโดย Marcus Junius Brutus และ Gaius Cassius Longinus ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการให้ชื่อซีซาร์ Brutus และ Cassius เคยต่อสู้กับ Caesar มาก่อน แต่ทั้งคู่ได้รับการอภัยจาก Caesar และสามารถรักษาตำแหน่งของพวกเขาในวุฒิสภาได้ ในวันที่ 15 มีนาคมวันที่เรียกว่าIdes of Marchกลุ่มวุฒิสมาชิกแทงซีซาร์จนตายในวุฒิสภาเอง

กลุ่มวุฒิสมาชิกตาม Plutarch หันเหความสนใจของซีซาร์โดยนำเสนอเขาด้วยคำร้องหลายครั้ง จากนั้นวุฒิสมาชิกชื่อ Tullius คว้าเสื้อคลุมของซีซาร์ "ด้วยมือทั้งสองแล้วดึงมันลงมาจากคอของเขา" Plutarch เขียนโดยสังเกตว่าการดึงนี้เป็นสัญญาณสำหรับคนอื่น ๆ ที่จะเริ่มแทงซีซาร์ วุฒิสมาชิกชื่อ Casca จากนั้นแทงซีซาร์ที่คอด้วยกริช ผู้สมรู้ร่วมคิดล้อมรอบซีซาร์และแทงเขาจากทิศทางที่แตกต่างกัน บรูตัสชายคนหนึ่งที่ซีซาร์อภัยโทษและแทงซีซาร์ก็ควรจะอยู่ในขาหนีบ Plutarch เขียน

“ มีการกล่าวกันว่าเขา [Caesar] ได้รับยี่สิบสาม [บาดแผลแทง] และผู้สมรู้ร่วมคิดหลายคนได้รับบาดเจ็บจากกันขณะที่พวกเขาพยายามที่จะปลูกทั้งหมดเหล่านั้นในร่างกายหนึ่ง” Plutarch เขียน เมื่อวิลเลียมเชกสเปียร์เขียนบทละครเกี่ยวกับซีซาร์ในศตวรรษที่ 16 เขาได้รวมบรรทัด "et tu brutus?" เป็นคำพูดสุดท้ายของซีซาร์ (ซึ่งสามารถแปลได้ว่า "คุณบรูตัสเกินไป?"); อย่างไรก็ตามไม่มีหลักฐานว่าเขาพูดเรื่องนี้ในชีวิตจริง

หลังจากการตายของซีซาร์มีสามกลุ่มใหญ่ ๆ ที่รวบรวมอำนาจในกรุงโรม หนึ่งถูกนำโดย Octavian ซึ่งเป็นหลานชายผู้ยิ่งใหญ่ของซีซาร์ซึ่งอยู่ในความตั้งใจของซีซาร์ได้รับการตั้งชื่อว่าเป็นลูกชายบุตรบุญธรรมและทายาทของเขา อีกคนนำโดย Mark Antony หนึ่งในนายพลของ Caesar ในขณะที่ Brutus และ Cassius นำฝ่ายอื่น กรุงโรมเข้าสู่สงครามกลางเมืองอีกครั้ง

ไทม์ไลน์ของชีวิตของซีซาร์

13 กรกฎาคม 100 ปีก่อนคริสตกาล: Caesar เกิดในเขตชานเมืองของกรุงโรม

82 BC: Sulla กลายเป็นเผด็จการของกรุงโรม; ซีซาร์พูดกับเขาและถูกบังคับให้หนีจากกรุงโรม

78 BC: Sulla Dies และ Caesar กลับไปยังกรุงโรมหลังจากนั้นไม่นาน

75 BC: Caesar ไปที่โรดส์เพื่อศึกษาคำปราศรัย แต่ถูกกักตัวโดยโจรสลัด

74 ปีก่อนคริสตกาล: ซีซาร์กลับมาที่โรมเข้ามามีส่วนร่วมกับการเมืองโดยใช้โชคลาภของครอบครัวเพื่อรวบรวมอิทธิพล

69 ปีก่อนคริสตกาล: คอร์เนเลียภรรยาคนแรกของซีซาร์เสียชีวิต ซีซาร์กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับเธอที่เพิ่มความนิยมของเขา

61-60 BC: Caesar ทำหน้าที่เป็นผู้ว่าการรัฐไอบีเรียเอาชนะชนเผ่าที่ต่อต้านการปกครองของโรมัน

60 ปีก่อนคริสตกาล: Caesar, Crassus และ Pompey Form triumvirate เพื่อปกครองกรุงโรม

59 BC: ลูกสาวของ Caesar Julia แต่งงานกับ Pompey

58-50 ปีก่อนคริสตกาล: แคมเปญซีซาร์ในกอลและอังกฤษพิชิตดินแดนจำนวนมาก

54 ปีก่อนคริสตกาล: จูเลียตายให้กำเนิดลูกของปอมเปย์ซึ่งไม่รอดชีวิต

53 ปีก่อนคริสตกาล: Crassus ถูกฆ่าตายเพื่อต่อสู้กับ Parthians

49 มกราคม, BC: Caesar ข้าม Rubicon และเดินขบวนในกรุงโรม

9 สิงหาคม 48 BC: Caesar เอาชนะ Pompey ที่ Battle of Pharsalus ในกรีซ; ปอมเปย์หนีไปอียิปต์

48 กันยายน BC: Pompey ถูกฆ่าตายโดยฟาโรห์ปโตเลมี XIII; ซีซาร์ถูกนำเสนอด้วยหัวและมีรายงานว่ารู้สึกเบื่อหน่ายกับวิธีการรักษาของปอมเปย์

48 กันยายน BC - มกราคม 47 BC: Caesar คืนค่า Cleopatra VII ให้เป็นพลังงาน ปโตเลมี XIII ต่อสู้กับกองกำลังของซีซาร์และคลีโอพัตรา แต่ถูกฆ่าตาย

47 มิถุนายน BC: Caesarion ลูกชายของ Caesar และ Cleopatra VII เกิด ซีซาร์ไม่ยอมรับเด็กเป็นของเขาเอง

45 BC: Caesar ดำเนินการใหม่ระบบปฏิทินในกรุงโรมที่มี 365 วันในหนึ่งปีและวันพิเศษในเดือนกุมภาพันธ์ทุก ๆ สี่ปี

มกราคม 44 BC: วุฒิสภาชื่อซีซาร์ "เผด็จการเพื่อชีวิต"

15 มีนาคม 44 BC: Caesar ถูกแทงจนตายในวุฒิสภาโรมัน

ทรัพยากรเพิ่มเติม

• ที่สภาครูสอนภาษาอังกฤษแห่งชาติมีแผนการสอนมากมายที่เกี่ยวข้องกับ Julius Caesar
• หนังสือของ Philip Freeman 2009เปิดเผยในรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม "ชีวประวัติของผู้พิชิตโรมันผู้พิชิต Julius Caesar"
• นี้วิดีโอช่องประวัติศาสตร์อธิบายว่า Julius Caesar จุดประกายสงครามกลางเมืองอย่างไร

บรรณานุกรม

Beard, Mary (2015)SPQR: ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมโบราณ- หนังสือโปรไฟล์

Goldsworthy, Adrian (2006)Caesar: ชีวิตของยักษ์ใหญ่- สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเยล

Raaflaub, Kurt (2021)Caesar และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์: เผชิญหน้ากับด้านมืดของสงคราม Gallic ของ Caesar- วารสารคลาสสิกนิวอิงแลนด์, ISS 1