หากต้องการใช้ Dolby Vision หรือ Dolby Atmos โดยทั่วไปคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับ Dolby นี่คือสาเหตุที่ Google กำลังพัฒนา Project Caviar เพื่อมอบโซลูชันที่คล้ายกันแต่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์
คุณรู้หรือไม่ว่าโครงการคาเวียร์- นี่ไม่ใช่อาหารพรีเมียมรูปแบบใหม่ แต่เป็นโครงการของ Google เพื่อเป็นทางเลือกแทน Dolby Vision และ Dolby Atmos เป้าหมายคือการพัฒนารูปแบบเปิดสำหรับวิดีโอ HDR และเสียง 3D โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เหมือนในกรณีของ Dolby ในปัจจุบัน สำหรับ Roshan Baliga ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Google อ้างจากสื่อออนไลน์พิธีสาร :
“เราตระหนักดีว่ามีประสบการณ์สื่อระดับพรีเมี่ยมที่ไม่มีโซลูชันปลอดลิขสิทธิ์ที่ดี -
ดังนั้น Dolby จึงเรียกเก็บเงินจากผู้ผลิตทีวีสองถึงสามดอลลาร์ต่อผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ Dolby Vision บริษัทไม่เปิดเผยค่าใช้จ่ายของใบอนุญาต Dolby Atmos แต่เรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ Windows 10 ประมาณ 15 ดอลลาร์เพื่อรับประโยชน์จากใบอนุญาตในหูฟัง
เป้าหมายแรกของโครงการ Caviar คือ YouTube ซึ่งปัจจุบันไม่มี Dolby Vision หรือ Dolby Atmos แต่ Google ไม่ได้ตั้งใจที่จะหยุดอยู่แค่นั้นและต้องการระดมพลผู้ให้บริการและผู้ผลิตอุปกรณ์ โปรดทราบว่าบริษัทได้ซื้อผู้ผลิตตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ On2 ในปี 2552 และมีส่วนร่วมในการสร้างกลุ่มพันธมิตรเพื่อสื่อเปิดผู้ดูแลตัวแปลงสัญญาณวิดีโอปลอดค่าลิขสิทธิ์เอวี1-
Samsung ล้มเหลวในการสร้างตัวเอง
เป้าหมายของ Google จะไม่นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการใช้ตัวแปลงสัญญาณที่มีอยู่ ในส่วนของ Samsung ได้พยายามที่จะเสนอทางเลือกแทน Dolby Vision โดยการพัฒนารูปแบบร่วมกันHDR10+ซึ่งไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ดังนั้นโทรทัศน์ระดับไฮเอนด์ของผู้ผลิตเกาหลีจึงมี Dolby Atmos แต่ไม่ใช่ Dolby Vision น่าเสียดายที่เทคโนโลยีนี้ล้มเหลวในการสร้างตัวเอง สาเหตุหลักมาจากกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมของ Dolby ซึ่งใช้ผู้เล่นเช่น Netflix, Disney+ และ HBO Max เพื่อโปรโมต Dolby Vision โดยไม่ต้องขอค่าธรรมเนียม
ในด้านเสียง Google อาจประสบปัญหาในการแข่งขันกับ Dolby ซึ่งพบพันธมิตรที่แข็งแกร่ง: Apple ในความเป็นจริงผู้ผลิตมีใช้รูปแบบ Dolby Atmosสำหรับเทคโนโลยีเสียงเชิงพื้นที่ โปรดทราบว่าสมาคมพันธมิตรเพื่อสื่อเปิดซึ่งรวมถึง Amazon, Netflix, Meta และ Samsung ก็กำลังพยายามพัฒนารูปแบบเสียง 3 มิติใหม่ที่เรียกว่าคอนเทนเนอร์เสียงที่ดื่มด่ำ- Google สามารถใช้รูปแบบนี้ในโครงการ Caviar รวมถึง HDR10+ สำหรับส่วนของรูปภาพ ดังนั้นผู้ใช้สามารถบันทึกวิดีโอในรูปแบบ HDR10+ และเผยแพร่บน YouTube ได้ บริการของ Google จึงสามารถใช้เป็นม้าโทรจันเพื่อโปรโมตรูปแบบ Project Caviar โดยเฉพาะบนสมาร์ทโฟน Android
🔴 เพื่อไม่พลาดข่าวสาร 01net ติดตามเราได้ที่Google ข่าวสารetวอทส์แอพพ์-
แหล่งที่มา : โปรโตคอล