การทดสอบ MG5 ทนทาน “ถูก”… และสเตชั่นแวกอนไฟฟ้าอัจฉริยะ

หมายเหตุบรรณาธิการ-เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2022 เวลา 8:27 น. การทดสอบ MG5 นี้ได้รับการอัปเดตเมื่อวันที่ 19/07/2022 อันที่จริงในระหว่างการทดสอบยานพาหนะครั้งแรก เราไม่สามารถรับภาพรวมที่สมบูรณ์ของประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้ การอัปเดตนี้จึงเกี่ยวข้องกับส่วนที่เป็นอิสระของการทดสอบและเพียงอย่างเดียว

MG5 ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกในตลาด แต่อาจเป็นคันเดียวที่คุณสามารถซื้อได้ แท้จริงแล้ว ทางเลือกเดียวที่มีอยู่เรียกว่า Porsche Cross Turismo และมีราคาแพงกว่ารถที่ "เรียบง่าย" ของเราในการทดสอบประมาณสี่เท่า
เอ็มจียังสร้างความพิเศษในการโจมตีตลาดไฟฟ้าด้วยรถยนต์ที่คุ้มค่าเงินอย่างเหนือชั้น ของเธอZS EV เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบในบรรดารถ SUVMG5 เพียงยืนยันกลยุทธ์นี้ก่อนที่จะมาถึงในช่วงปลายปีของ MG4 ที่น่าจะเป็นซึ่งสัญญาว่าจะเป็นคอมแพ็คไฟฟ้าที่ถูกที่สุดในตลาด
ด้วยรูปแบบที่ไม่ธรรมดาและราคาที่น่าดึงดูดเป็นพิเศษ (32,490 ยูโร ไม่รวมโบนัสระบบนิเวศ) MG5 สมควรได้รับความสนใจอย่างแน่นอน นี่คือการทดสอบของเขา

รุ่นทางเทคนิคของ ZS มีจำหน่ายในรูปแบบสเตชั่นแวกอน

MG ไม่ได้มองไกลเมื่อพัฒนาสเตชั่นแวกอน สิ่งนี้มีอยู่แล้วในรุ่นระบายความร้อนในบางตลาด โดยเพียงแค่รวมแบตเตอรี่/มอเตอร์เข้าด้วยกันเกือบจะเหมือนกับของรถ SUV อย่าง ZS EV
เช่นเดียวกับรุ่นหลัง MG5 มีให้เลือกสองรุ่น ได้แก่ แบตเตอรี่ "เล็ก" และ "ใหญ่" และเครื่องยนต์สองเครื่อง เช่นเดียวกับที่ทำกับ SUV เทคโนโลยีแบตเตอรี่ทั้งสองมีความแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ในเวอร์ชัน “Standard Autonomy” สเตชั่นแวกอนจะรวมมอเตอร์ซิงโครนัส 130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) และแบตเตอรี่ LFP (ลิเธียม-เหล็ก-ฟอสเฟต) 50.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง สำหรับรุ่น “ขยายอิสระ” นั้นจะมีแบตเตอรี่ NMC (นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์) ขนาด 61.1 kWh แต่มีมอเตอร์ที่ทรงพลังน้อยกว่าเล็กน้อย (115 กิโลวัตต์หรือ 156 แรงม้า) เราตัดสินใจทดสอบเวอร์ชันล่าสุดนี้ในรูปลักษณ์ "หรูหรา" ซึ่งน่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในฝรั่งเศส

การออกแบบ: เธอจะไม่ชนะการประกวดความงาม

มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ MG สามารถนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกกว่าคู่แข่งได้ ผู้ผลิตซึ่งมี SAIC Motors ของจีนเป็นเจ้าของ ได้ประโยชน์ เช่น จากราคาแบตเตอรี่ที่ได้เปรียบ และมีเรือขนส่งเป็นของตัวเอง
หากเขาประหยัดค่าใช้จ่ายที่สำคัญทั้งสองแหล่งนี้อย่างแน่นอน ก็อาจสงสัยว่าเขาทำเช่นเดียวกันกับเงินเดือนของนักออกแบบของเขา แน่นอนว่ายานพาหนะของแบรนด์นี้ต้องดิ้นรนเพื่อเกลี้ยกล่อมโดยไม่ต้องน่าเกลียดเป็นพิเศษ MG5 ก็ไม่มีข้อยกเว้น และถึงแม้จะสามารถหลีกเลี่ยง "อาการศพ" ที่เกิดขึ้นกับรถสเตชั่นแวกอนบางรุ่นได้ แต่มันก็ขาดเสน่ห์ทางเพศอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ให้เรายอมรับสิ่งหนึ่งแก่เขา: ในความเป็นจริงเขาจะเศร้าน้อยกว่าในรูปถ่ายมาก ซึ่งจะต้องสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ซื้อในอนาคตของเขาอย่างแน่นอน
ไม่ว่าในกรณีใด การออกแบบไม่ใช่ทรัพย์สินหลักของสเตชั่นแวกอนระบบไฟฟ้านี้ โชคดีที่ไม่มีทรัพย์สินขาดแคลนเมื่อความผิดหวังเล็กน้อยจากความรักที่ล้มเหลวตั้งแต่แรกพบได้ผ่านไปแล้ว

อุปกรณ์ที่น่าประทับใจในราคา

ครั้งหนึ่งเคยหลุดเข้าไปในห้องโดยสารของ MG5 ซึ่งเราเข้าใจได้ชัดเจนที่สุดว่าอะไรทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จขนาดนี้ วัสดุและคุณภาพของการตกแต่งนั้นคุ้มค่ากับรถยนต์ที่ขายในราคาที่แพงกว่าถึง 10 ถึง 15,000 ยูโร และจำนวนอุปกรณ์ออนบอร์ด (มาตรฐาน) นั้นเกินกว่าที่คู่แข่งส่วนใหญ่เสนอมาก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใด MG จึงมีการตกแต่งเพียงสองแบบในแค็ตตาล็อก โดยแบบพื้นฐานที่สุด (“ความสะดวกสบาย”) นั้นมาพร้อมกับหน้าจอกลางขนาด 10.25 นิ้วที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีอยู่แล้วคาร์เพลย์etแอนดรอยด์ออโต้, ไฟหน้า LED และแม้แต่เบาะนั่งแบบปรับอุณหภูมิได้ที่ด้านหน้า ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ปกติจะสงวนไว้สำหรับรถระดับไฮเอนด์

สำหรับการตกแต่งที่หรูหราของเรา ซึ่งขายในราคาเพิ่มอีก 1,500 ยูโร นั้น ได้เพิ่มกล้อง 360 องศา (คุณภาพที่น่าสงสัย) เบาะนั่งคนขับที่ปรับด้วยไฟฟ้า ขอบล้อขนาด 17 นิ้ว และเซ็นเซอร์ความสะดวกสบายบางอย่าง (เครื่องปรับอากาศ ฝน ฯลฯ)

ในส่วนของระบบปฏิบัติการ เราพบระบบเดียวกันกับ ZS อีกครั้ง ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่อย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับยานพาหนะคันแรกที่วางตลาดโดย SAIC แต่ยังคงมีน้ำหนักอยู่ด้วยการแปลโดยประมาณและชื่อที่แปลกมาก
ดังนั้นควรปรับสภาพแบตเตอรี่ล่วงหน้าก่อนที่จะชาร์จ“ความร้อนของแบตเตอรี่ขณะขับขี่”ที่เอ็มจี. ตะกรันเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ให้อภัยได้มากกว่าเนื่องจากสามารถแก้ไขได้ง่ายผ่านการอัปเดต

สุดท้ายนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเล็กน้อยที่ MG5 ผสานรวมเทคโนโลยี V2L หรืออีกนัยหนึ่งคือการชาร์จแบบย้อนกลับ โดยพื้นฐานแล้ว นี่คือโหมดที่รถสามารถชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้โดยใช้อะแดปเตอร์ ในกรณีของเรา เราใช้ประโยชน์จาก V2L ของ MG5 เพื่อจ่ายไฟให้กับ iPad ชาร์จสมาร์ทโฟน แต่ยังเชื่อมต่อกับคอมเพรสเซอร์ด้วย อย่างไรก็ตาม โปรดใช้ความระมัดระวัง หาก MG5 มี V2L เป็นมาตรฐาน อะแดปเตอร์จะเป็นอุปกรณ์เสริม ราคา 650 ยูโร การชาร์จเพิ่มเติมมีราคาแพง

ความเป็นอิสระ: ที่รูปแบบอสังหาริมทรัพย์ฝัง SUV

เนื่องจากแพลตฟอร์มทางเทคนิคของ MG5 นั้นเหมือนกับของ ZS EV ที่ยอดเยี่ยม เราจึงคาดหวังประสิทธิภาพที่ค่อนข้างคล้ายกันในแง่ของความเป็นอิสระ
แน่นอนว่าสเตชั่นแวกอนได้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบด้านแอโรไดนามิกบางอย่างบนกระดาษ แต่เรายังห่างไกลจากการสงสัยถึงความแตกต่างในประสิทธิภาพระหว่างสองรูปแบบนี้
อันที่จริงในระหว่างการทดสอบรถ SUV เราสังเกตเห็นอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20 kWh/100 กม. ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อบกพร่องเล็กน้อยบางประการของรถ อย่างไรก็ตาม ด้วยความจุของแบตเตอรี่ที่ใกล้เคียงกันและเครื่องยนต์ที่เหมือนกัน อัตราสิ้นเปลืองนี้จึงลดลงต่ำกว่า 17 kWh/100 กม. และไม่มีการขับขี่แบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใดๆ เลย
ด้วยการเดินเท้าที่ค่อนข้างยืดหยุ่นและพยายามอย่างหนักในการฟื้นตัว ดูเหมือนว่าสามารถไปได้ต่ำกว่า 15 kWh/100 กม. ซึ่งทำให้ MG5 เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันน้อยที่สุด

นอกจากนี้เรายังนำ MG5 รุ่นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ไปบนเส้นทางมอเตอร์เวย์และอีกเส้นทางหนึ่งที่ประกอบด้วยแกนเร็วหลายแกน (80 กม./ชม., 110 และ 130 กม./ชม.) เพื่อตรวจสอบว่าสภาพการบริการที่ดีในสภาพแวดล้อมในเมืองสามารถทำได้หรือไม่ นำไปใช้กับการเดินทางไกล

ในการเดินทางบนมอเตอร์เวย์เพียงอย่างเดียว ความเร็ว 130 กม./ชม. เมื่อใช้ระบบควบคุมความเร็วคงที่ และในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย อัตราการบริโภคสเตชั่นแวกอนของเราเพิ่มขึ้นเป็น 21.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. ในด้านเครื่องมือวัด ปริมาณการใช้แบบเรียลไทม์ระบุประมาณ 24 kWh เห็นได้ชัดว่าความแตกต่างนั้นอธิบายได้จากความไม่แน่นอนของถนน ซึ่งหมายความว่าเราไม่ได้ขับด้วยความเร็วสูงสุดเสมอไป 130 กม./ชม. ในการกำหนดค่านี้ อัตราสิ้นเปลืองของ MG5 ถือเป็นค่าเฉลี่ยสำหรับคู่แข่ง เมื่อคำนึงถึงขนาดของถังสะสมแล้ว อัตราสิ้นเปลืองดังกล่าวทำให้สามารถขับได้ประมาณ 230 กม. บนเส้นทางมอเตอร์เวย์เท่านั้น  พอจะกล่าวได้ว่าไม่เหมาะสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนที่อีกฟากหนึ่งของฝรั่งเศส เว้นแต่คุณจะมีความอดทนและค้นหาสถานีชาร์จที่ต้นน้ำ

มันเป็นเส้นทางที่สองของเรา แน่นอนบนทางด่วน แต่รอบๆ ภูมิภาคปารีส ทำให้เราประหลาดใจมากที่สุดจากการทดสอบนี้ แท้จริงแล้ว เส้นทาง 74.3 กม. ของเราที่เสร็จสิ้นภายใน 1 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนใหญ่ประกอบด้วยส่วนของมอเตอร์เวย์ที่จำกัดไว้ที่ 110 กม./ชม. ถนนบางส่วนที่ความเร็วสูงสุดที่อนุญาตลดลงเหลือ 80 กม./ชม. และสุดท้ายถึงยอดเขาบางส่วนที่ 130 กม./ชม. ซ สองกรณีหลังส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อย นับหนึ่งกิโลเมตรที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของเส้นทางเพื่อเข้าถึงเครือข่ายมอเตอร์เวย์ และคุณจะเห็นภาพรวมการเดินทางของเราโดยสมบูรณ์
ขอย้ำอีกครั้งว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยในระหว่างการทดสอบ และเรายังต้องรับมือกับการชะลอตัวสามครั้ง โดยหนึ่งในนั้นใช้เวลานานกว่า 5 นาที ในท้ายที่สุด ความเร็วเฉลี่ยของเราระหว่างการทดสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาทีนี้คือ 50 กม./ชม. แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ อัตราสิ้นเปลืองของเราอยู่ที่ 13.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.
โดยสรุป หาก MG5 ทนทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับคู่แข่ง ทันทีที่ความเร็วเกิน 110 กม. มันจะยอดเยี่ยมเมื่อไม่เกินเกณฑ์นี้ ยังดีกว่านั้น มันเป็นเส้นทางผสมซึ่งท้ายที่สุดแล้วค่อนข้างเป็นเรื่องปกติของการจราจรติดขัดแบบคลาสสิกในภูมิภาคปารีสที่เขานำเสนอใบหน้าที่ดีที่สุดของเขา ในที่สุดข่าวดีก็คือว่า MG5 มีระยะทางขับขี่เกิน 400 กม. ในสภาพที่เอื้ออำนวย

ในทางกลับกัน ภาพจะดูสดใสน้อยลงเล็กน้อยเมื่อพิจารณาถึงการชาร์จใหม่ ไม่ใช่อยู่ที่ความจุของแบตเตอรี่ แต่อยู่ที่วิธีการชาร์จมากกว่า
ด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 92 กิโลวัตต์ ทำให้ MG5 สามารถชาร์จได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80% ใน 30 นาที สมรรถนะโดยรวมถือว่าดีสำหรับรถยนต์ที่ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไกล
การชาร์จที่บ้านมากกว่าที่ทำให้เกิดคำถาม โดย MG ยังคงปฏิเสธที่จะจัดหาปลั๊กชาร์จที่บ้านตามค่าเริ่มต้น ผู้ซื้อในอนาคตจะต้องลงนามในเช็คเพิ่มเติมจำนวน 200 ยูโร หากต้องการเรียกเก็บเงินจากรถที่บ้าน ซึ่งหมายความว่าค่าใช้จ่ายนี้เกือบจะบังคับเลย ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

MG5 มีความรู้สึกอย่างไรเมื่อขับขี่?

ด้วยกำลังที่ค่อนข้างมีอยู่ MG5 จึงไม่ใช่สงครามสายฟ้าแลบอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ได้ป้องกันคุณจากอาการสั่นเล็กน้อยเมื่อเร่งความเร็ว เนื่องจากมีแรงบิด 280 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็ว 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 8 วินาที แต่อย่างที่คุณคงเข้าใจแล้วว่า นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของรถจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เอ็มจีไม่ลังเลที่จะเสนอโหมดการขับขี่หลายโหมดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในความเป็นจริง ความรู้สึกระหว่างโหมดอีโคของรถและโหมดสปอร์ตมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งจะกระชับและมีชีวิตชีวามากขึ้นเมื่อเร่งความเร็ว

เราคงจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างแบบเดียวกันในระดับต่างๆ ของการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่จาก MG ผ่านทางปุ่ม« เคอร์ส »ของรถ
กรณีนี้ไม่เป็นเช่นนั้น มีเพียงระดับ 3 (สูงสุด) เท่านั้นที่คุ้มค่าแก่ความสนใจอย่างแท้จริง เมื่อคุณต้องการกู้คืนระบบอัตโนมัติเมื่อเบรก ยิ่งไปกว่านั้น ยังยินดีหากระบบนี้มาพร้อมกับโหมดคันเหยียบเดียว แต่การชะลอตัวของ kers ไม่อนุญาตให้ MG5 หยุดโดยสมบูรณ์

สำหรับส่วนที่เหลือการขับรถสเตชั่นแวกอนแบบไฟฟ้านั้นค่อนข้างน่าพอใจและค่อนข้างสะดวกสบายแม้ว่าการบังคับเลี้ยวจะขาดความแม่นยำอย่างชัดเจนก็ตาม บางคนอาจวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันขาดความคล่องตัวเล็กน้อยเนื่องจากมีน้ำหนักค่อนข้างมากและรูปลักษณ์ที่เพรียวบาง แต่เราต้องจำไว้ว่ามันเป็นรถครอบครัวที่ราคาไม่แพง

คำตัดสินของศาล

MG5 เป็นข้อเสนอที่ผิดปรกติและน่าสนใจ สเตชั่นแวกอนไฟฟ้าที่มีการออกแบบที่เกือบจะจืดชืดสามารถโน้มน้าวใจได้เกือบทุกจุดโดยเริ่มจากราคา ด้วยความไม่พอใจกับการล้อเลียน Zoé ด้วยราคา (และอื่นๆ) ในขณะที่มีอุปกรณ์ครบครัน กว้างขวางกว่า และใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ MG ยังช่วยให้ตัวเองมีจินตนาการบางอย่างที่ปกติแล้วสงวนไว้สำหรับยานพาหนะชั้นยอด เช่น การชาร์จแบบย้อนกลับ

แต่เหนือสิ่งอื่นใด เมื่ออยู่บนเครื่อง เราต้องคำนึงถึงคุณภาพและความหนาแน่นของอุปกรณ์ที่เอ็มจีมอบให้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการตกแต่งหรืออุปกรณ์เพื่อความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับรถ SUV แบรนด์ SAIC Motors ได้รับความนิยมอย่างมากด้วยรถยนต์ที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา

🔴 เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารจาก 01net ติดตามเราได้ที่Google ข่าวสารetวอทส์แอพพ์-